๑. การไม่คบคนพาล การคบแต่บัณฑิต
การบูชาบุคคลผู้ควรบูชา ทั้ง ๓ ประการนี้เป็น
๒. การอยู่ในสถานที่อันสมควร ความเป็นผู้มีบุญอันได้กระทำไว้แต่แต่กาลก่อน
การตั้งตนไว้โดยชอบตามทำนองคลองธรรม ทั้ง ๓ ประการนี้ก็เป็น
๓. ความเป็นผู้ได้ยินได้ฟังธรรมและปฏิบัติธรรมมาก ความเป็นผู้มีศิลปวิทยา
ความเป็นผู้ได้ศึกษาเล่าเรียนและปฏิบัติในระเบียบวินัยเป็นอันดี
การกล่าววาจาที่เป็นธรรมและไพเราะ แม้ทั้ง ๔ ประการนี้ก็เป็น
๔. การอุปัฎฐากบำรุงบิดามารดาให้มีสุข การสงเคราะห์บุตรและภรรยาให้มีสุข
การทำการงานให้เสร็จเรียบร้อยไม่คั่งค้าง ทั้ง ๓ ประการนี้ก็เป็น
๕. การให้ทาน การประพฤติธรรม การสงเคราะห์ญาติและคนใกล้ชิดทั้งหลาย
การทำการงานที่ไม่ประกอบด้วยโทษทั้งทางโลกทางธรรม
แม้ทั้ง ๔ ประการนี้ก็เป็น
๖. การงดเว้นจากการทำบาปทั้งหลาย การงดเว้นจากการดื่มน้ำเมา
ความไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย ทั้ง ๓ ประการนี้ก็เป็น
๗. การเคารพต่อบุคคลและสิ่งที่ควรเคารพ ความไม่เย่อหยิ่งจองหอง
ความสันโดดยินดีในสิ่งที่ตนมีอยู่และสิ่งที่ตนพิงหาได้โดยชอบธรรม
ความเป็นผู้มีกตัญญูรู้คุณที่ท่านได้ทำไว้แล้วแก่ตน การได้ฟังธรรมคำสอนของสัตบุรุษ
ตามกาลเวลาอันสมควร แม้ทั้ง ๕ ประการนี้ก็เป็น
๘. ความเป็นผู้มีขันติความอดทน ความเป็นผู้ว่าง่ายสอนง่าย
การได้เห็นสมณพราหมณ์ผู้ทรงศีลทั้งหลาย การได้เจรจาสนทนาธรรมตามกาลเวลาอันสมควร
แม้ทั้ง ๔ ประการนี้ก็เป็น
๙. การมีความเพียรเพื่อเผากิเลส การประพฤติพรหมจรรย์คือปฏิบัติตนให้เป็นผู้ประเสริฐ
การมีปัญญาเห็นอริยสัจทั้งหลาย การทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน
แม้ทั้ง ๔ ประการนี้ก็เป็น
๑๐. การทำจิตไม่ให้หวั่นไหวในโลกธรรมที่มากระทบ การไม่ทำใจให้เศร้าโศก
การทำจิตให้ปราศจากธุลีคือกิเลสทั้งหลาย
การทำจิตให้ถึงพระนิพพานอันเป็นแดนพ้นจากภัยทั้งหลาย
แม้ทั้ง ๔ ประการนี้ก็เป็น
๑๑. อนึ่ง เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เมื่อได้กระทำ
ย่อมเป็นผู้ไม่พ่ายแพ้ในที่ทั้งปวง และย่อมถึงความสวัสดีในที่ทั้งปวง
ทั้งหมดนั้นเป็น
No comments:
Post a Comment