Showing posts with label Prayer. Show all posts
Showing posts with label Prayer. Show all posts

Saturday, 5 May 2007

คาถาบูชา พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพ็ชญบรมไตรโลกนาถ

หรือ พระพุทธนิมิตฯ ประดิษฐานอยู่ที่ วัดหน้าพระเมรุ ที่ พระนครศรีอยุธยา

นะโม ๓ จบ

พุทธนิมิตตัง อหังวันทา ขมามิหัง
พุทธนิมิตตัง สหัสสะโกติเทวตานัง
พุทธนิมิตตัง สาธุ รูปานัง
อิติสุคะโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ
ปฐวีคงคา พระภูมะเทวา ขมามิหัง

Sunday, 1 April 2007

คำแปลบทสวดเจ็ดตำนาน: ๔. ขันธปริตร

๔. ขันธปริตร แผ่เมตตาจิตไปยังตระกูลพญางูทั้ง ๔ เพื่อคุ้มครองป้องกันตน

๑. ความเป็นมิตรของเรา จงมีกับพระยานาคทั้งหลายตระกูลวิรูปักข์ด้วย
ความเป็นมิตรของเรา จงมีกับพระยานาคทั้งหลายตระกูลเอราบถด้วย
๒. ความเป็นมิตรของเรา จงมีกับพระยานาคทั้งหลายตระกูลฉัพยาบุตรด้วย
ความเป็นมิตรของเรา จงมีกับพระยานาคทั้งหลายตระกูลกัณหาโคตมกะด้วย
๓. ความเป็นมิตรของเรา จงมีกับสัตว์ทั้งหลายที่ไม่มีเท้าด้วย
ความเป็นมิตรของเรา จงมีกับสัตว์ทั้งหลายที่มี ๒ เท้าด้วย
๔. ความเป็นมิตรของเรา จงมีกับสัตว์ทั้งหลายที่มี ๔ เท้าด้วย
ความเป็นมิตรของเรา จงมีกับสัตว์ทั้งหลายที่มีหลายเท้าด้วย
๕. สัตว์ไม่มีเท้าอย่าเบียดเบียนเรา สัตว์ ๒ เท้าอย่าเบียดเบียนเรา
๖. สัตว์ ๔ เท้าอย่าเบียดเบียนเรา สัตว์หลายเท้าอย่าเบียดเบียนเรา
๗. และขอสรรพสัตว์ทั้งหลายที่มีชีวิตทั้งปวง ที่เกิดมาทั้งหมดทั้งสิ้นด้วยกัน
๘. จงเห็นซึ่งความเจริญทั้งหลายทั้งปวงเถิด โทษอันลามกใดๆ อย่าได้มาถึงแล้ว แก้สัตว์เหล่านั้น
๙. พระพุทธเจ้า ทรงพระคุณไม่มีประมาณ พระธรรม ทรงพระคุณไม่มีประมาณ
พระสงฆ์ ทรงพระคุณไม่มีประมาณ สัตว์เลื้อยคลานทั้งหลายคือ งู แมงป่อง ตะเข็บ ตะขาบ
แมงมุง ตุ๊กแก หนู เหล่านี้ล้วนมีประมาณจำกัด ไม่มากเหมือนพระรัตนตรัย
เราได้กระทำความรักษาแล้ว เราได้กระทำความป้องกันแล้ว หมู่สัตว์ทั้งหลายจงหลีไปเสีย
เรานั้นได้กระทำความนอบน้อมต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าอยู่ เราได้กระทำความนอบน้อม
ต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๗ พระองค์อยู่ ฯ

คำแปลบทสวดเจ็ดตำนาน: ๓. กรณียเมตตสูตร

๓. กรณียเมตตสูตร ป้องกันเทวดาภัยด้วยการเจริญเมตตาอัปมัญญา แผ่เมตตาไปทั่วทั้งโลก

๑. กุลบุตรผู้ฉลาด พึงกระทำกิจที่พระอริยเจ้าผู้บรรลุแล้วซึ่งพระนิพพานอันเป็นที่สงบระงับได้กระทำแล้ว
กุลบุตรนั้นพึงเป็นผู้องอาจ ซื่อตรงและประพฤติตรงดี เป็นผู้ที่ว่าง่ายสอนง่าย อ่อนโยน ไม่มีมานะอันยิ่ง
เป็นผู้สันโดษยินดีในสิ่งที่ตนมีอยู่ เป็นผู้เลี้ยงง่าย เป็นผู้มีกิจธุระน้อย เป็นผู้ประพฤติทำให้กายและจิตเบา
มีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ อันสงบนิ่ง มีปัญญาฆ่ากิเลส เป็นผู้ไม่คะนองกาย วาจา ใจ
และไม่พัวพันในสกุลทั้งหลาย ไม่พึงกระทำกรรมที่ท่านผู้รู้ทั้งหลายติเตียนผู้อื่นว่าทำแล้วไม่ดี
พึงแผ่เมตตาจิตว่า ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงเป็นผู้มีสุข มีจิตเกาะ พระนิพพานแดนอันพ้นจากภัย
ทั้งหลาย และจงเป็นผู้ทำตนให้ถึงความสุขทุกเมื่อเถิด

ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงทั้งหมดโดยไม่มีเหลือ ทั้งที่มีตัณหาเครื่องทำใจให้สะดุ้งอยู่ และผู้มั่นคงคือไม่มี
ตัณหาแล้ว ทั้งที่มีกายยาว ใหญ่ ปานกลาง หรือกายสั้น หรือผอม อ้วน เป็นผู้ที่เราเห็นแล้วก็ดี
ไม่ได้เห็นก็ดี อยู่ในที่ไกลหรือในที่ไม่ไกล ทั้งที่เกิดมาในโลกนี้แล้ว และที่ยังกำลังแสวงหาภพอยู่ก็ดี
จงเป็นผู้ทำตนให้ถึงความสุขเถิด สัตว์อื่นอย่าพึงอย่าพึงรังแกข่มเหงสัตว์อื่น
อย่าพึงดูหมิ่นใครในที่ใดๆ เลย ไม่ควรปรารถนาให้กันและกันมีความทุกข์ เพราะความกริ้วโกรธ
และเพราะความเคียดแค้นกันเลย มารดาย่อมตามรักษาบุตรคนเดียวผู้เกิดในตน ด้วยชีวิต ฉันใด
กุลบุตรพึงเจริญเมตตาจิตในใจไม่มีประมาณ ในสัตว์ทั้งปวงทั้งหลายแม้ฉันนั้น

๒. บุคคลพึงเจริญเมตตาให้มีในใจไม่มีประมาณ ไปในโลกทั้งสิ้น ทั้งเบื้องบน เบื้องต่ำ เบื้องขวาง การเจริญ
เมตตาจิตนี้เป็นธรรมอันไม่แคบ ไม่มีเวร ไม่มีศัตรู ผู้เจริญเมตตาจิตนั้น จะยืนอยู่ก็ดี เดินไปก็ดี นั่งอยู่ก็ดี
นอนอยู่ก็ดี เป็นผู้ปราศจากความง่วงเพียงใด ก็สามารถตั้งสติไว้ได้เพียงนั้น
บัณฑิตทั้งหลายกล่าวถึงกิริยาอย่างนี้ว่า เป็นการเจริญพรหมวิหารในศาสนานี้
บุคคลผู้ที่มีเมตตา ไม่เข้าถึงความเห็นผิด เป็นผู้มีศีลถึงพร้อมแล้วด้วยความเห็นคือปัญญา นำความ
หมกมุ่นในกามทั้งหลายออกได้แล้ว ย่อมไม่เข้าถึงความเข้าไปนอนในครรภ์เพื่อเกิดอีกโดยแท้แล ฯ

Monday, 29 January 2007

คำแปลบทสวดเจ็ดตำนาน: ๒. รัตนสูตร

๒. รัตนสูตร บททำน้ำมนต์ กำจัดภัย ๓ คือข้าวยากหมากแพง ผีรบกวน และ โรคร้าย ที่นครเวสาลี

๑. ทรัพย์อันทำให้ยินดีและปลื้มใจ อย่างใดอย่างหนึ่ง ในโลกนี้หรือโลกอื่น หรือว่ารัตนะอันประณีตในสวรรค์ ทรัพย์หรือรัตนะนั้นๆ ที่จะวิเศษเสมอด้วยพระตถาคตเจ้านั้นไม่มีเลย คุณวิเศษแม้อันนี้ เป็นรัตนะอันประณีตในพระพุทธเจ้า
ด้วยการกล่าวคำสัตย์จริงนี้ ขอความสวัสดีจงมี ฯ
๒. พระศรีศากยมุนีเจ้า ผู้มีพระทัยดำรงตั้งมั่น ได้บรรลุถึงความสิ้นไป แห่งกิเลสและความสิ้นไปแห่งราคะ อันเป็นอมตธรรมอันประณีตแล้ว สิ่งวิเศษใดๆ จะเสมอด้วยพระธรรมนั้นย่อยไม่มี
คุณวิเศษแม้อันนี้ เป็นรัตนะอันประณีตในพระธรรม ด้วยการกล่าวคำสัตย์จริงนี้ ขอความสวัสดีจงมี ฯ
๓. พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด ทรงสรรเสริญสมาธิว่าเป็นธรรมอันสะอาด และบัณฑิตทั้งหลายกล่าวว่า สมาธิเป็นคุณธรรมอันให้ผลโดยลำดับสม่ำเสมอ คุณธรรมอื่นๆที่จะเสมอด้วยสมาธิที่พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญแล้วนั้น ย่อมไม่มีคุณวิเศษแม้อันนี้ เป็นรัตนะอันประณีตในพระธรรม ด้วยการกล่าวคำสัตย์จริงนี้ ขอความสวัสดีจงมี ฯ
๔. พระอริยบุคคล ๘ จำพวก ๔ คู่ ที่สัตบุรุษสรรเสริญแล้วนั้น เป็นสาวกของพระสุคตเจ้า เป็นผู้ควรรับทานที่หมู่ชนนำมาถวาย ทานทั้งหลายที่ถวายในพระอริยบุคคล ๘ จำพวก ๔ คู่ เหล่านั้น ย่อมมีผลมากคุณวิเศษแม้อย่างนี้ เป็นรัตนะอันประณีตในพระอริยสงฆ์ ด้วยการกล่าวคำสัตย์จริงนี้ ขอความสวัสดีจงมี ฯ
๕. พระอริยบุคคลทั้งหลายในศาสนาของพระสมณโคดมเจ้า เป็นผู้ประกอบความเพียรดีแล้ว มีใจมั่นคง มีความใคร่ออกไปแล้ว พระอริยบุคคลทั้งหลายเหล่านั้น เป็นผู้ถึงอรหัตผลที่ควรถึง ได้หยั่งจิตเข้าสู่นิพพาน แล้วได้ความดับกิเลสโดยง่ายแบบกินเปล่า แล้วจึงเสวยผลที่ได้นั้นอยู่ตลอดกาล คุณวิเศษแม้อย่างนี้ เป็นรัตนะอันประณีตในพระอริยสงฆ์ ด้วยการกล่าวคำสัตย์จริงนี้ ขอความสวัสดีจงมี ฯ
๖. กรรมเก่าของพระอริยบุคคลทั้งหลายสิ้นแล้ว กรรมอันแต่งให้เกิดใหม่ย่อมไม่มี มีจิตอันหน่ายในภพต่อไปแล้ว พระอริยบุคคลเหล่านั้น สิ้นพืชคือตัณหาคือเหตุให้เกิดแล้ว ไม่มีความพอใจในภพงอกขึ้นมาอีกแล้ว เป็นผู้มีปัญญา ย่อมดับกิเลสไม่มีเชื้อเหลือ เหมือนแสงสว่างอันดับไปแล้วฉะนั้นคุณวิเศษแม้อย่างนี้ เป็นรัตนะอันประณีตในพระอริยสงฆ์
ด้วยการกล่าวคำสัตย์จริงนี้ ขอความสวัสดีจงมี ฯ

Thursday, 25 January 2007

คำแปลบทสวดเจ็ดตำนาน: ๑. มงคลสูตร

๑. มงคลสูตร พระพุทธดำรัส ตรัสแก่เทวดาผู้ทูลถามถึงสิ่งที่เป็นมงคล

๑. การไม่คบคนพาล การคบแต่บัณฑิต
การบูชาบุคคลผู้ควรบูชา ทั้ง ๓ ประการนี้เป็นมงคลอันสูงสุด ฯ

๒. การอยู่ในสถานที่อันสมควร ความเป็นผู้มีบุญอันได้กระทำไว้แต่แต่กาลก่อน
การตั้งตนไว้โดยชอบตามทำนองคลองธรรม ทั้ง ๓ ประการนี้ก็เป็นมงคลอันสูงสุด ฯ

๓. ความเป็นผู้ได้ยินได้ฟังธรรมและปฏิบัติธรรมมาก ความเป็นผู้มีศิลปวิทยา
ความเป็นผู้ได้ศึกษาเล่าเรียนและปฏิบัติในระเบียบวินัยเป็นอันดี
การกล่าววาจาที่เป็นธรรมและไพเราะ แม้ทั้ง ๔ ประการนี้ก็เป็นมงคลอันสูงสุด ฯ

๔. การอุปัฎฐากบำรุงบิดามารดาให้มีสุข การสงเคราะห์บุตรและภรรยาให้มีสุข
การทำการงานให้เสร็จเรียบร้อยไม่คั่งค้าง ทั้ง ๓ ประการนี้ก็เป็นมงคลอันสูงสุด ฯ

๕. การให้ทาน การประพฤติธรรม การสงเคราะห์ญาติและคนใกล้ชิดทั้งหลาย
การทำการงานที่ไม่ประกอบด้วยโทษทั้งทางโลกทางธรรม
แม้ทั้ง ๔ ประการนี้ก็เป็นมงคลอันสูงสุด ฯ

๖. การงดเว้นจากการทำบาปทั้งหลาย การงดเว้นจากการดื่มน้ำเมา
ความไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย ทั้ง ๓ ประการนี้ก็เป็นมงคลอันสูงสุด ฯ

๗. การเคารพต่อบุคคลและสิ่งที่ควรเคารพ ความไม่เย่อหยิ่งจองหอง
ความสันโดดยินดีในสิ่งที่ตนมีอยู่และสิ่งที่ตนพิงหาได้โดยชอบธรรม
ความเป็นผู้มีกตัญญูรู้คุณที่ท่านได้ทำไว้แล้วแก่ตน การได้ฟังธรรมคำสอนของสัตบุรุษ
ตามกาลเวลาอันสมควร แม้ทั้ง ๕ ประการนี้ก็เป็นมงคลอันสูงสุด ฯ

๘. ความเป็นผู้มีขันติความอดทน ความเป็นผู้ว่าง่ายสอนง่าย
การได้เห็นสมณพราหมณ์ผู้ทรงศีลทั้งหลาย การได้เจรจาสนทนาธรรมตามกาลเวลาอันสมควร
แม้ทั้ง ๔ ประการนี้ก็เป็นมงคลอันสูงสุด ฯ

๙. การมีความเพียรเพื่อเผากิเลส การประพฤติพรหมจรรย์คือปฏิบัติตนให้เป็นผู้ประเสริฐ
การมีปัญญาเห็นอริยสัจทั้งหลาย การทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน
แม้ทั้ง ๔ ประการนี้ก็เป็นมงคลอันสูงสุด ฯ

๑๐. การทำจิตไม่ให้หวั่นไหวในโลกธรรมที่มากระทบ การไม่ทำใจให้เศร้าโศก
การทำจิตให้ปราศจากธุลีคือกิเลสทั้งหลาย
การทำจิตให้ถึงพระนิพพานอันเป็นแดนพ้นจากภัยทั้งหลาย
แม้ทั้ง ๔ ประการนี้ก็เป็นมงคลอันสูงสุด ฯ

๑๑. อนึ่ง เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เมื่อได้กระทำมงคลทั้งหลายเช่นนี้แล้ว
ย่อมเป็นผู้ไม่พ่ายแพ้ในที่ทั้งปวง และย่อมถึงความสวัสดีในที่ทั้งปวง
ทั้งหมดนั้นเป็นมงคลอันสูงสุดของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายเหล่านั้นแล ฯ